
ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis vaginitis) เป็นโรคที่พบได้เป็นครั้งคราว ซึ่งไม่มีอันตรายร้ายแรง ถือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (กามโรค) ชนิดหนึ่ง
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อโปรโตชัว (สัตว์เซลล์เดียว) ซึ่งเป็นพยาธิขนาดเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า ทริโคโมแนสวาจินาลิส (Trichomonas vaginalis) ติดต่อโดยการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรคนี้
อาการ
ผู้ป่วยจะมีอาการคันในช่องคลอดมาก บางครั้งอาจมีอาการขัดเบา หรือปวดแสบปวดร้อนเวลาปัสสาวะ และมีอาการตกขาวออกเป็นสีเหลืองหรือเขียว มีกลิ่นเหม็น มักออกเป็นจำนวนมาก และมีลักษณะเป็นฟอง ๆ
ภาวะแทรกซ้อน
ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (เช่น หนองใน เอดส์)
ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคนี้อาจทำให้ทารกคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักตัวต่ำ
ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคนี้อาจทำให้ทารกคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักตัวต่ำ
การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยขั้นต้นจากอาการ จะวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจภายในช่องคลอด และนำตกขาวไปตรวจส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะพบเชื้อทริโคโมแนส
การรักษาโดยแพทย์
แพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อ ได้แก่ เมโทรไนดาโซล และควรให้ฝ่ายชายกินยานี้พร้อม ๆ กันไปด้วย เพื่อป้องกันมิให้ฝ่ายหญิงรับเชื้อซ้ำอีก
การดูแลตนเอง
ถ้าหากสงสัย เช่น มีอาการคันในช่องคลอดมาก และมีอาการตกขาวออกเป็นสีเหลืองหรือเขียว มีกลิ่นเหม็น
ควรปรึกษาแพทย์
เมื่อตรวจพบว่าเป็นช่องคลอดอักเสบจากเชื้อทริโคโมแนส ควรดูแลตนเอง ดังนี้
ควรปรึกษาแพทย์
เมื่อตรวจพบว่าเป็นช่องคลอดอักเสบจากเชื้อทริโคโมแนส ควรดูแลตนเอง ดังนี้
- รักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
- ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
- ถ้าจะหลับนอนกับสามี ควรให้สามีสวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา
- มีอาการกำเริบซ้ำ
- ในรายที่แพทย์ให้ยารักษา หากใช้ยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
การป้องกัน
ใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์
ข้อแนะนำ
1. โรคนี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในหญิงตั้งครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการตกขาวและคัน ควรได้รับการตรวจรักษาอย่างจริงจัง
2. ผู้ชายที่ติดเชื้อตัวนี้ ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการแสดง แต่สามารถแพร่เชื้อให้ฝ่ายหญิง
ส่วนน้อยที่อาจมีอาการท่อปัสสาวะอักเสบ (ขัดเบา มีหนองไหลเล็กน้อยแบบหนองในเทียม) หรือต่อมลูกหมากอักเสบ
ทางที่ดี ถ้าพบว่าฝ่ายหญิงเป็นโรคนี้ ควรให้ฝ่ายชายกินยารักษาพร้อม ๆ กันไปด้วย
2. ผู้ชายที่ติดเชื้อตัวนี้ ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการแสดง แต่สามารถแพร่เชื้อให้ฝ่ายหญิง
ส่วนน้อยที่อาจมีอาการท่อปัสสาวะอักเสบ (ขัดเบา มีหนองไหลเล็กน้อยแบบหนองในเทียม) หรือต่อมลูกหมากอักเสบ
ทางที่ดี ถ้าพบว่าฝ่ายหญิงเป็นโรคนี้ ควรให้ฝ่ายชายกินยารักษาพร้อม ๆ กันไปด้วย